ความเข้าใจผิดของวีซ่าทำงาน

อาจจะกล่าวได้ว่าการทำงานเป็นสิ่งที่จะช่วยให้เรานั้นมีรายได้มากกว่าเดิม จึงไม่น่าแปลกใจเลยหากว่าการทำงานของหลายๆ คนเป็นเรื่องที่ไม่ยากเกินไป ดังนั้นจะดีกว่าหรือไม่ หากเรานั้นทำความเข้าใจในเรื่องของวีซ่าทำงานให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเรื่องที่คนมักเข้าใจผิดบ่อยๆ เกี่ยวกับวีซ่าทำงานนั้นมีดังต่อไปนี้ 

1.ต้องเสียเงินหลักหมื่น 

ความเข้าใจผิดแรกได้แก่ การเสียเงินหลักหมื่นบาทให้กับการขอวีซ่าเพื่อการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นประเทศใดก็ตาม ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว เราสามารถสอบถามก่อนได้ว่า หากจะขอวีซ่าทำงานประเทศนั้นๆ จะต้องเสียเงินเท่าใดกันแน่ บ่อยครั้งที่คนซึ่งไม่มีความรู้ความชำนาญโดนหลอก นั่นเป็นเพราะเชื่อว่าหากได้ทำงานต่างประเทศอย่างไรก็คุ้มค่าอยู่แล้ว จึงยอมแลกกับการเสียเงินดังที่กล่าวไปแล้วข้างต้น แต่อย่างไรก็ดี หากคุณอยากให้การเสียเงินคุ้มค่า อาจสอบถามจากคนที่มีประสบการณ์มาก่อนแล้วก็ได้เช่นกัน รับประกันได้เลยว่า จะทำให้เกิดปัญหาน้อยที่สุด ไม่โดนหลอกอีกด้วย 

2.จะต้องพูดภาษาประเทศนั้นๆ ได้ก่อน แล้วจึงจะขอวีซ่าได้ 

อีกหนึ่งความเข้าใจผิดก็คือ คนที่เข้าใจว่าหากอยากให้การขอวีซ่าเป็นเรื่องง่าย ให้เราหัดพูดภาษาของประเทศนั้นๆ ก่อน ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่อย่างที่คิดเลยสักนิดเดียว ทางที่ดีที่สุดก็คือ ให้เราเรียนภาษาอังกฤษไว้ก่อน และหากประเทศที่เราจะไป หรือว่าประเทศปลายทางเป็นประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก ก็ให้เลือกภาษาที่ประเทศนั้นใช้เป็นภาษาที่เราจะเรียนก็ได้ 

3.ต้องติดต่อที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง 

นี่ก็คือความเข้าใจผิดของหลายๆ คน ซึ่ง ตม นั้นแท้ที่จริงแล้วก็เป็นการตรวจคนเข้าเมืองของไทย หากเรานั้นอยากจะทำวีซ่าขอแนะนำเลยว่าให้เรานั้นเลือกเป็นการติดต่อที่สถานทูตประเทศนั้นๆจะดีกว่า เพราะว่าตรงจุดสำหรับคนที่จะขอวีซ่าและยังสอบถามเพิ่มเติมได้อีกด้วยสำหรับหลักเกณฑ์การขอวีซ่าทำงาน 

4.ต้องใช้หลักฐานอย่างเดียวคือบัตรประชาชน 

การใช้หลักฐานสำหรับขอวีซ่าเป็นสิ่งที่ต้องเตรียมให้พร้อม ซึ่งหลักฐานที่ต้องใช้นั้นก็มีอย่างเดียวซึ่งก็คือบัตรประชาชนนั่นเอง อาจจะกล่าวได้ว่าการใช้บัตรประชาชนคือสิ่งที่ต้องใส่ใจและให้ความสำคัญอย่างมากเลยก็ว่าได้ 

และนี่ก็คือ สิ่งที่หลายๆ คนอาจจะไม่รู้มาก่อนเกี่ยวกับการเลือกทำวีซ่าสำหรับทำงาน การจะไปทำงานต่างประเทศ ประกอบด้วยรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ จำนวนมาก จะดีกว่าหรือไม่หากเรานั้นใส่ใจให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้